ฟิตบอล อีกทางเลือกของผู้รักการออกกำลังกาย
ฟิตบอล อีกทางเลือกของผู้รักการออกกำลังกาย |
สำหรับบรรดาผู้รักสุขภาพและรักการออกกำลังกายแล้ว ขณะนี้ “ฟิตบอล” ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกใหม่ในการออกกำลังกายที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นทุกขณะ ทั้งในวงการฟิตเนสต่างประเทศรวมถึงในประเทศไทย โดยเฉพาะบรรดาสาวๆสมัยใหม่ทั้งหลาย ทั้งนี้ ในปัจจุบันศูนย์ฟิตเนสของไทยหลายๆ แห่งได้มีการเปิดให้บริการฟิตบอลเพิ่มเข้ามาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ ศูนย์ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพของม.เกษตรศาสตร์ (บางเขน) ที่เพิ่งได้เปิดตัวเครื่องเล่นฟิตบอลเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ก่อนมาเป็นฟิตบอล ประภัสสร สกุลเสาวภาคย์กุล ผู้ดูแลศูนย์ฟิตเนส ให้ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติและความเป็นมาของฟิตบอลว่า ในปี ค.ศ.1963 ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ได้มีการนำลูกบอลมาใช้ในการบริหารและเรียกการออกกำลังกายชนิดนี้ว่า “สวิสบอล” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อออกกำลังกายและทำกายภาพบำบัดผู้ป่วยหลังการผ่าตัดกระดูก ให้สามารถยืดหยุ่นกล้ามเนื้อและร่างกายให้ดีขึ้น ต่อมาทางสหรัฐอเมริกาเห็นถึงประโยชน์ของการฝึกสวิสบอล จึงได้นำมาประยุกต์ใช้สำหรับคนปกติ พร้อมทั้งคิดค้นและผสมผสานกับหลักการการออกกำลังกายแบบแอโรบิกเข้าไป รวมทั้งเลือกเพลงประกอบการฝึกที่สนุกสนานแล้วเรียกชื่อใหม่ว่า ‘ฟิตบอล’ อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ลูกฟิตบอลทำจากยางสังเคราะห์ที่มีคุณสมบัติพิเศษ สามารถรับน้ำหนักได้เป็นอย่างดีมีความยืดหยุ่นสูง จึงได้มีการนำไปใช้ประกอบการออกกำลังกายชนิดอื่นๆ ได้อีกด้วย เช่น โยคะ “การออกกำลังกายด้วยฟิตบอลทำให้ผู้เล่นสนุกสนาน เราสามารถขึ้นไปนั่งหรือนอนบนลูกบอลได้ สบายๆ แถมยังโยกตัวหมุนซ้ายขวาได้ตามทิศทางที่เรากำหนด ขณะเดียวกันความกลมกลิ้งของลูกบอลที่กระเด้งกระดอนยังช่วยให้ผู้เล่นสนุกสนานไปพร้อมๆ กันด้วย”ประภัสสรอธิบาย ด้านจุฬาลักษณ์ อินทร์ศรี ครูฝึกฟิตบอลของศูนย์ออกกำลังกาย มก.ขยายความเพิ่มเติมว่า ฟิตบอลเป็นการออกกำลังกายที่สามารถเล่นได้ทุกเพศทุกวัย อีกทั้งอุปกรณ์ที่เป็นลูกบอลซึ่งช่วยให้ผู้เล่นสนุกสนานไปกับการออกกำลังกาย และยังช่วยให้ผู้ที่ไม่สามารถเล่นฟิตเนส รวมทั้งการเต้นแอโรบิกสามารถที่จะเล่นฟิตบอลได้ ส่วนประโยชน์ที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ ฟิตบอลจะช่วยบริหารร่างกายส่วนบน ตั้งแต่หัวไหล่ หน้าท้อง แผ่นหลัง ไปจนถึงสะโพกและต้นขา ซึ่งนำมาปรับใช้ในการบำบัดรักษาอาการบางอย่างเช่น อาการปวดหลัง ปวดไขข้อกระดูก ขณะที่การควบคุมแรงดีดกลับของลูกบอลก็ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ เพิ่มประสิทธิภาพในการทรงตัวและการทำงานของอวัยวะแต่ละส่วนให้สัมพันธ์กัน รวมถึงสามารถประยุกต์ท่าทางตั้งแต่ยืดเส้นสาย การควบคุมการหายใจ การบริหารกล้ามเนื้อ นอกจากนั้น การยกน้ำหนักแบบฟรีเวต(free weight) หรือแม้แต่โยคะสามารถนำมาใช้กับฟิตบอลได้อีกด้วย ที่สำคัญคนที่ไม่สะดวกในการกระโดดโลดเต้นกับพื้นแบบแอโรบิกแบบเดิมๆ เช่น หญิงมีครรภ์ ผู้สูงอายุ สามารถนั่งบริหารบนฟิตบอลทดแทนได้เช่นกัน เริ่มเล่นฟิตบอล สำหรับการเตรียมตัวเพื่อมาเล่นฟิตบอลนั้น จุฬาลักษณ์แนะนำว่าก็คล้ายกับการเตรียมตัวมาเล่นฟิตเนส คือ ใส่เสื้อผ้าที่เหมาะกับรูปร่าง ไม่รัดจนเกินไป เพื่อให้การเคลื่อนไหวของร่างกายทำได้สะดวกเพราะเมื่อเล่นฟิตบอลจะมีบางท่าที่ต้องนอนกลิ้งอยู่บนลูกบอล รวมทั้งท่าอื่นๆที่คล้ายกับการเต้นแอโรบิก ส่วนการเลือกลูกบอล ต้องเลือกลูกบอลที่ขนาดพอดีกับร่างกายโดยดูตามส่วนสูงและน้ำหนักของเราเพื่อให้หย่อนตัวนั่งบนลูกบอลให้พอดีโดยสามารถเหยียดและวางเท้าบนพื้นได้ ทั้งนี้ ทางศูนย์ออกกำลังกายของมก.จะมีอยู่ 2ขนาดคือขนาดใหญ่(เส้นผ่าศูนย์กลาง 75 ซม.)ที่เหมาะสำหรับคนที่สูง 180 ซม.ขึ้นไป และขนาดกลาง(เส้นผ่าศูนย์กลาง 65ซม.)ที่เหมาะสำหรับคนที่สูง150 ซม.ขึ้นไป หรือผู้เล่นสามารถนำลูกบอลของตัวเองมาเล่นได้ เพราะอาจจะคุ้นเคยกับลูกบอลของตัวเองอยู่แล้ว แต่ต้องการครูฝึกช่วยดูแลก็สามารถมาเล่นที่ศูนย์ได้ เมื่อทุกอย่างพร้อมสรรพแล้ว การออกกำลังกายต้องเริ่มจากการอบอุ่นร่างกายพื้นฐานก่อนคือสะบัดข้อมือ ข้อเท้า เอว หัวเข่า และยืดกล้ามเนื้อไหล่ หลัง แขน ขา ประมาณ10-15นาที จากนั้นก็เริ่มเล่นลูกบอล ซึ่งลูกบอลนั้นจะมีลายเป็นวงกลมไล่ตั้งแต่บริเวณหัวจุกของลูกบอลลงมาถึงหัวจุกอีกด้านหนึ่งของลูกบอล เมื่อเริ่มนั่งนั้นทางครูฝึกบอกว่าควรที่จะนั่งบริเวณหัวจุกซึ่งเป็นศูนย์กลางของวงกลมเพื่อให้ง่ายต่อการทรงตัวเมื่อนั่งบนลูกบอล ต่อมาให้ผู้เล่นทำความคุ้นเคยกับลูกบอลก่อนโดยการนั่งโยกตัวไปมา จากนั้นก็เริ่มเข้าสู่การใช้ลูกบอลเข้ามาผสมผสานกับการออกกำลังกายในแบบต่างๆ ทั้งการเต้นแอโรบิก การเล่นโยคะ จุฬาลักษณ์บอกด้วยว่า นอกจากการเล่นฟิตบอลจะช่วยให้ผู้เล่นมีกล้ามเนื้อที่กระชับ แข็งแรงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หน้าท้องที่แบนราบ รูปร่างที่สมส่วนแล้ว ฟิตบอลยังช่วยให้มีบุคลิกภาพที่ดี ซึ่งข้อดีของการเล่นฟิตบอลที่ดีอีกอย่างหนึ่งนั้น คือ ผู้เล่น ไม่จำเป็นต้องไปเล่นฟิตเนสก็ได้ ผู้เล่นสามารถเล่นได้ที่บ้าน เพียงแค่หาลูกฟิตบอลมานั่งอ่านหนังสือหรือดูทีวีแทนเก้าอี้ ขณะเดียวกันก็เก็บหน้าท้อง นั่งหลังตรงพยายามควบคุมบอลให้นิ่งประมาณวันละประมาณ 30 นาที แต่หากว่าต้องการตั้งใจเล่นจริงๆ ก็ควรไปที่ฟิตเนส เพราะจะมีการเล่นแบบท่าต่างๆ มากมายโดยมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ที่มา : manager.co.th |
หน้าที่เข้าชม | 342,631 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 256,771 ครั้ง |
เปิดร้าน | 30 พ.ค. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 24 เม.ย. 2568 |